รับ ออกแบบ ระบบแจ้งเหตุเพลิงไหม้ โดยวิศวกรไฟฟ้า

คุณสมบัติสินค้า:

ออกแบบระบบแจ้งเหตุเพลิงไหม้ (Fire Alarm System design) ที่มีประสิทธิภาพ ตามมาตรฐานสากล (เช่น NFPA 72) และกฎหมายไทยที่เกี่ยวข้อง

หมวดหมู่ : Project

แบรนด์ : PTWIN

Share

CONSEPT DESIGN FIRE ALARM SYSTEM

มาตรฐานอ้างอิงในการออกแบบ

1.มาตรฐาน วสท. ( EIT 021002-24 )

2.มาตรฐาน NFPA 72

การออกแบบระบบแจ้งเหตุเพลิงไหม้ (Fire Alarm System design) ที่มีประสิทธิภาพต้องพิจารณาตามมาตรฐานสากล (เช่น NFPA 72) และกฎหมายไทยที่เกี่ยวข้อง โดยมีขั้นตอนและส่วนประกอบที่สำคัญดังนี้

1.          ส่วนประกอบสำคัญของระบบ

ระบบแจ้งเหตุเพลิงไหม้ทั่วไปประกอบด้วยส่วนหลักๆ ได้แก่

ตู้ควบคุม (Fire Alarm Control Panel - FACP) : เป็นศูนย์กลางการทำงานของระบบ รับสัญญาณจากอุปกรณ์ตรวจจับและสั่งการอุปกรณ์แจ้งเตือน

อุปกรณ์ตรวจจับ (Initiating Devices) : ทำหน้าที่ตรวจหาสิ่งผิดปกติที่เป็นสัญญาณของเพลิงไหม้ ได้แก่

อุปกรณ์ตรวจจับควัน (Smoke Detector) : ตรวจจับควันไฟ เหมาะสำหรับพื้นที่ทั่วไป เช่น สำนักงาน ทางเดิน

อุปกรณ์ตรวจจับความร้อน (Heat Detector) : ตรวจจับอุณหภูมิที่สูงผิดปกติหรืออัตราการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิอย่างรวดเร็ว เหมาะสำหรับพื้นที่ที่มีความร้อนตามปกติอยู่แล้ว เช่น ห้องครัว หรือโรงงานอุตสาหกรรม

อุปกรณ์ตรวจจับเปลวไฟ (Flame Detector) : ตรวจจับแสงอินฟราเรดหรืออัลตราไวโอเลตจากเปลวไฟ เหมาะสำหรับพื้นที่อุตสาหกรรมที่มีความเสี่ยงสูง

อุปกรณ์แจ้งเหตุด้วยมือ (Manual Pull Station/Manual Call Point) : อุปกรณ์ที่ผู้พบเห็นเหตุการณ์สามารถกดหรือดึงเพื่อแจ้งเตือนได้ทันที

               อุปกรณ์แจ้งเตือน (Notification Appliances) : ทำหน้าที่แจ้งให้ผู้อยู่ในอาคารทราบถึงเหตุเพลิงไหม้ ได้แก่

                    กระดิ่ง/แตรสัญญาณ (Alarm Bell/Horn) : ส่งเสียงเตือนภัย

ไฟสัญญาณ (Strobe Light) : ส่งสัญญาณแสงวาบ สำหรับผู้ที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน หรือในพื้นที่ที่มีเสียงดัง

               แหล่งจ่ายไฟ (Power Supply) : รวมถึงแบตเตอรี่สำรองเพื่อให้ระบบทำงานได้ต่อเนื่องแม้ไฟดับ

2.     ขั้นตอนและข้อควรพิจารณาในการออกแบบ

การออกแบบต้องพิจารณาปัจจัยหลายประการเพื่อให้ระบบทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

การประเมินความเสี่ยงและลักษณะอาคาร : พิจารณาประเภทของอาคาร (ที่พักอาศัย, สำนักงาน, โรงงาน) ขนาดและความซับซ้อน เพื่อเลือกระบบที่เหมาะสม (ระบบ Conventional สำหรับอาคารขนาดเล็ก หรือ Addressable สำหรับอาคารขนาดใหญ่ที่ต้องการระบุตำแหน่งเกิดเหตุที่ชัดเจน)

การปฏิบัติตามมาตรฐานและกฎหมาย : การออกแบบและติดตั้งต้องเป็นไปตามกฎหมายไทยและมาตรฐานสากล เช่น NFPA 72 (National Fire Alarm and Signaling Code) ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวาง

การกำหนดตำแหน่งติดตั้งอุปกรณ์ :

อุปกรณ์ตรวจจับควัน : ติดตั้งโดยมีระยะห่างระหว่างอุปกรณ์ไม่ควรเกิน 9 เมตร และห่างจากผนังหรือสิ่งกีดขวางตามมาตรฐานกำหนด

อุปกรณ์แจ้งเหตุด้วยมือ : ติดตั้งในจุดที่มองเห็นได้ชัดเจน สูงจากพื้นประมาณ 1.30–1.50 เมตร และบริเวณทางเข้า-ออก หรือบันไดหนีไฟของทุกชั้น

การวางแผนเส้นทางเดินสาย : ต้องมีการออกแบบท่อร้อยสายไฟฟ้าที่เหมาะสม และเป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัย

การเชื่อมต่อกับระบบอื่น : ระบบอาจต้องเชื่อมต่อกับระบบดับเพลิงอัตโนมัติ (เช่น สปริงเกลอร์), ระบบควบคุมการเข้าออก หรือระบบลิฟต์ เพื่อสั่งการในภาวะฉุกเฉิน

การบำรุงรักษา : ระบบที่ดีต้องง่ายต่อการตรวจสอบและบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้มั่นใจว่าพร้อมใช้งานตลอดเวลา

·     การออกแบบโดยผู้เชี่ยวชาญและผ่านการรับรองตามมาตรฐานเพื่อช่วยเพิ่มความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

      สนใจออกแบบ ระบบ Fire Alarm โรงงาน, อาคารสูง โดยวิศวกรไฟฟ้า ที่มีประสบการสูง และผ่านการอบรมจาก สภาวิศวกรแห่งประเทศไทย ติดต่อ บริษัท พัฒธาวินท์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้